สองโยคีนีแห่งล้านนาลุยแดนมังกร

เรื่องมีอยู่ว่าเล็กและคุณนายดัชชี่ถูกเชิญไปสอนในงานYoga Festival ที่กวางเจาประเทศจีนคุณนายดัชชี่ที่ต้องเรียกว่าคุณนายเพราะสามีเธอไม่เคยปล่อยให้เดินทางคนเดียวตัวคุณนายก็เลยไม่ต้องทำอะไรเพราะคุณสามีทำให้หมดเราจึงต้องเรียกเธอว่าคุณนายไม่งั้นเธอจะโกรธอิฉันช่วงนั้นก็ยุ่งมากจนไม่มีเวลาหาข้อมูลเกี่ยวกับกวางเจาเลยเพราะนึกว่าคุณนายดัชชี่เธอคงเตรียมเรียบร้อยแล้วเพราะเธอเป็นคนชวนให้ไปสอนที่งาน yoga frstival ด้วยกันแต่คุณนายดัชชี่ก็ไม่ได้หาเพราะไม่เคยวางแผนเองสามีวางแผนเที่ยวหมด

จนเย็นวันหนึ่งอิฉันก็เริมกังวลว่าเอ้ะเราจะบินมะรืนนี้แล้วนี่หว่าเราจะทำอะไรที่ไหนยังไงใครจะมารับเราที่สนามบินอิฉันไม่รู้เรื่องเลยเลยโทรถามคุณนายเธอดู

เล็ก : ครูดัชเราออกวันพุธกันกี่โมง

ครูดัชชี่ : ออกวันพุธอะไรคะเราออกพรุ่งนี้คะตอนบ่ายสามไปต่อเครื่องที่กรุงเทพ

เล็ก : อ้าวลืม!! ยังไม่ได้เก็บของเลยขอมูลอะไรเกี่ยวกับกวางเจายังไม้ได้หาเลยแล้วเราพอถึงสนามบินแล้วเราจะไปที่พักยังไง

ครูดัชชี่ : เราก็นั่งรถไฟใต้ดินไงทางโน้นเขาส่งรายละเอียดมาให้แล้วว่าจะต้องไปลงสถานีไหน

เล็ก : เราไปถึงโน่นเกือบเที่ยงคืนกว่าจผ่านต.ม. กว่าจะรอกระเป๋าก็คงปาเข้าไปเกือบตีหนึ่งแล้วนะรถไฟมันยังอยู่วิ่งหรองั้นเรานั่งรถแท๊กซี่ไปแล้วกันขอไปแบบสบายๆก็แล้วกัน

พอจะcheck in ทางอินเตอร์เน็ทก็ถึงได้รู้ว่าผู้จัดไม่ได้ซื้อโหลดกระเป๋าให้เราเลยจัดการซื้อกระเป๋าเพิ่มและซื้อ hot seat ด้วยเลยถ้าจะบินไกลด้วยสายการบินแอร์เอเชียอิฉันขอแนะนำให้ยอมจ่ายเงินเพิ่มซื้อ hot seatเพราะคุณจะได้นั่งอย่างสบายและส่วนมากคุณจะได้ที่นั่งทั้งแถวสมัยก่อนอิฉันงกคะคืออะไรที่ต้องจ่ายเพิ่มเราไม่ยอมจ่ายแต่ตอนนี้ถือว่าฉันทำงานเหนื่อยขอใช้เงินกับตัวเองบ้างนั่ง Hot seat คนละแถวกับครูดัชชี่นอนเหยียดขาได้สบายใจแล้วถ้าจะนั่ง Hotsest นะต้องนั่งแถว exit row ด้วยเพราะมีพื้นที่ขากว้างกว่าสบายกว่ากันเยอะเลยอันนี้อิฉันแนะนำเลย

พอไปถึงสนามบินกวางเจาก็เกือบเที่ยงคืนแล้วปรากฎว่านึกขึ้นได้ว่าอิฉันลืมกระเป๋าตังไว้ที่บ้านเลยต้องขอยืมเงินครูดัชใช้ดีว่าแยกเงินหยวนใส่ไว้อีกกะเป๋านึงเลยมีเงินหยวนติดตัวไปแค่ห้าพันบาทกะว่าเดี๋ยวผู้จักก็จ่ายค่าสอนให้เดี๋ยวก็คงพอใช้จนกลับคิดอยู่ว่าถ้ามาคนเดียวจะทำยังไง

พอออกจากสนามบินก็เรียกแท๊กซี่ให้ไปส่งที่พักเราก็เอาชื่อสถานที่ๆที่คุณDaisy หนึ่งในทีมงานที่จัดงานส่งมาให้ให้แท๊กซี่ดูปรากฏว่าแท๊กซี่ทุกคนส่ายหัวไม่อยากไปเราก็นึกว่ามันคงไกลน่าดูสินะถึงไม่มีคนอยากไปกว่าจะเรียกได้ก็ใช้เวลานานเพราะต้องต่อราคาแบบสไตล์แท๊กซี่ผีสนามบินเหมือนเมืองไทยเลยไอ้แท๊กซี่ผีนี้มันมีอยู่ทุกหนทุกแห่งเลยนะยกเว้นประเทศที่เจริญแล้วเหมือนกับว่าแท๊กซี่ผีเป็นตัววัดว่าประเทศไหนเจริญหรือไม่เจริญเอาเป็นว่าเรายอมจ่ายเพราะดึกมากแล้วอยากนอนเร็มที่

พอแท๊กซี่ขับไปได้ซักพักเขาก็ขับเลี้ยวเขาซอยเปลี่ยวๆมืดมากไม่มีไฟถนนอิฉันกับคุณนายดัชนั่งมองหน้ากันสองคนนึกในใจว่าดีใจที่มากันสองคนถ้ามาคนเดียวคงน่ากลัวมากถ้ามันจะลากเราลงไปข่มขืนผู้ฉิงตัวเล็กๆอย่าเราจะทำยังงัยเลยหันไปบอกคุณนายดัชชี่ว่า

เล็ก: ครูดัชเอาเสื่อโยคะมาให้เล็กถ้ามันจอดรถข้างทางนะให้วิ่งหนีไปเลยนะไม่ต้องห่วงเล็กนะครูดัชเดี๋ยวเล็กถ่วงเวลามันให้ครูดัชวิ่งไปเลยนะ (หันไปทำหน้าแบบจริงจังมาก)

คุณนายดัชชี่ : ก็วิ่งไปด้วยกันสิ
เล็ก : เดี๋ยวเล็กถ่วงเวลาไว้ให้ครูดัชเอาเสื่อโยคะมา

คุณนายดัช : แล้วจะเอาเสื่อโยคะไปทำอะไรจะเอาไปฟาดหัวมันเหรอ

เล็ก : ป่าวเอาไว้ปูพื้นถนนเมืองจีนไม่ไว้ใจคะทั้งขากทั้งถุยเราผู้ดีมีสกุลถ้าจะเสียตัวทั้งทีต้องมีสไตล์

คุณนายดัช : บ้า555555


มาถึงกวางเจาครั้งแรกแถมมาถึงตอนเที่ยงคืนนี้น่ากลัวมากอยู่ๆแทกซี่ก็จอดรถบอกว่าถึงแล้วเราก็มองหน้ากันถึงไหนวะไม่เห็นมีตึกหรือะไรที่จะเรียกว่าโรงแรมได้เลยเห็นแต่ไซด์งานก่อสร้างถนนแล้วมันจะเอาเรามาทิ้งกลางทางอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้พูดก็ไม่รู้เรื่องเลยบอกคุณนายดัชชี่ว่ามอย่าลงรถถ้าลงมันทิ้งเราไว้นี้แน่เลยแล้วจะไปไงต่อโชคดีที่ผู้จัดงานส่งรูปทางเข้าที่พักมาให้เลยบออกมันว่าไม่ใช่ที่นี่แล้วเอารูปบนมือถือให้ดูมันก็บอกที่นี่แหละอิฉันกับคุณนายดัชก็ยืนยันที่จะไม่ลงจนกว่ามันจะไปส่งตามรูปที่เขาส่งให้มามันก็ส่ายหน้าบอกที่นี้และถูกแล้วเราก็ไม่ยอมลงเลยบอกวันว่าให้โทรหาผู้จัดเราก็ให้เบอร์ผู้จักไปคนขับก็โทรหาโชคดีว่าผู้จัดรอเราอยู่พอคุยเสร็จแท๊กซี่ก็ขับไปอีกซักร้อยเมตรก็ถึงประตูทางเข้าเจอกับคุณDaisy หนึ่งในผู้จัดมารอพวกเราอยู่แถวออกค่าแท๊กซี่ให้ด้วยพอได้เข้าห้องพักด้วยความเหนื่อพอเห็นเตียงปูผ้าขาวนึกว่าจะนุ่มเราก็ทิ้งตัวนั่งบนเตียงตูดกระแทกกับฟูกมันสะเทือนไปถึงสมองเลยอิฉันนึกซะว่าตัวเองเป็นเซียวเหล่งนึ่งในดาบมังกรหยกได้นอนเตียงหยกฟูกอะไรวะโคตรแข็งเลยคืนนั้นนอนไปพลิกตัวไปพลิกตัวมาปวดตัวไปหมดกระดูกทิ่มเตียง

อิฉันตื่นมาตั้งแต่ตีห้าเพราะปวดตัวจากจากการนอนบนเตียงหยกตื่นมารอคุณนายดัชชี่ตื่นเลยมานั่งหาข้อมูลเที่ยวในอินเตอร์เน็ตพอคุณนายดัชชี่ตื่นก็ออกไปหาอาหารกินก่อนแถวที่พักก็จะมีร้านอาหารเล็กๆชาวบ้านชาวบ้านกินกันไม่มีภาษาอังกฤษเลยเวลาสั่งก็เลยใช้ชี้รูปเอาถ้าร้านไหนไม่มีเมนูที่มีรูปเราก็ไม่เข้ากินไปก็วางแผนกันว่าจะไปไหนไปกันยังไงตกลงง่ายที่สุดคือนั่งรถใต้ดินเพราะเรียกแท๊กซี่ไม่เป็นวันแรกเราก็ได้เที่ยวทั้งพิพิธภัณฑ์สุสานกษัตริย์ถ้าใครไปกวางเจาก็ต้องไปที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีที่เที่ยวอยู่ไม่กี่แห่งเสร็จแล้วก็หากินเที่ยวก่อนตอนเที่ยวร้านอาหารคนเยอะมากโต๊ะสำหรับนั่งสี่แต่พี่จีนเธอสามารถยัดได้เจ็ดคนแบ่งๆกันไปไม่มีใครบ่นพอกินเสร็จเราก็ไปเที่ยวสวนสาธารณะใหญ่กลางเมืองชื่อYue-Xiuที่นี่จะมีอนุสาวรีย์แพะห้าตัวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่และปิดท้ายด้วย Shoppingที่ถนนคนเดินของกวางเจาชื่อBeijing Lu คุณนายดัชชี่ก็เริ่มมีปัญหากับรองเท้าของเธอก็จะไม่ให้มีได้ยังไงเธอเล่นใส่แตะหนีบทรงเตารีดคือคุณนายเธอคงไม่รู้ว่ามาเมืองจีนต้องเดินลูกเดียวจนรองเท้ากัดตีนเลยร้องขอกลับที่พัก

ตกลงวันแรกผ่านไปด้วยดีต่างคนก็ได้เสื้อผ้าคนละชุดสองชุดพออีกวันกะว่าจะไปเที่ยวตลาดขายส่งปรากฎว่าหลงแต่ไปเจอแหล่งขายพวกหินคริสตัลและหยกสองคนกับคุณนายดัชตื่นตาตื่นใจกับหยกมีทั้งที่เป็นจี้เป็นแหวนกำไรสารพัดที่เขาแกะลวดลายได้สวยมากงานละเอียดมากอิฉันตั้งใจจะซื้อมาฝากนักเรียนซักโหลเพราะนึกว่ามันจะถูกๆเห็นขายกันเป็นกองพะเนินนึกว่าจะราคาสำเพ็งแต่พอถามราคาชิ้นเล็กๆราคาเป็นหมื่นคือถูกสุดก็เป็นหลายพันนักเรียนที่รักทุกท่านช่วยมาworkshopครูเยอะๆนะครูจะได้มีปัญญาซื้อหยกแจก

ผมได้นิลแกะสลักอย่าววิจิตรละเอียดมากแบบมังกรแกะออกมาได้ละเอียดจนเห็นเกล็ดทุกเกล็ดเลยถ้ามองดีๆอาจจะเห็นเห็บเกาะไต้เกล็ดมักรก็ได้เลยซื้อมาฝากแฟนกับตัวเองในใจนึกดีใจที่ลืมกระเป๋าตังไม่งั้นกระเป๋าฉีกแน่ที่อยู่ได้คือต้องเกาะครูดัชกินขอเงินครูดัชใช้สงสัยจะได้อาชีพใหม่

วันนี้เลยกลับเร็วหน่อยพรุ่งนี้ต้องสอนกันแต่เช้าเลยแวะกินข้าวกันก่อนเข้าที่พักคุยกันว่างั้นเรากินดีๆหน่อยแล้วกันไปร้านซีฟู้ดเลยเราเลือกร้านที่มีเมนูเป็นรูปภาพกะว่าจะกินมื้อใหญ่ซักทีปรากฎว่าไอ้ที่เราเห็นในรูปไม่ใช่อย่างที่เราคิดสั่งไม่รู้ว่าครูดัชสั่งอะไรแต่มันมาเป็นหอยแครงลวกราดน้ำซอสใสๆเค็มๆในใจคิดมึงอยู่เมืองจีนกินร้านข้างถนนแต่คุณนายดัชจะกินหอยแครงคิดในใจงานนี้มีขี้แตกแน่จะไม่กินคุณนายดัชก็จะเสียใจเลยยอมกินเสร็จจานที่สองดูในรูปมันเหมือนซีฟู้ดต้มยำอะไรสักอย่างจะถามว่าอะไรก็พูดกันไม่รู้เรื่องเลยลองสั่งมากินดูพอมาถึงกลายเป็นต้มเครื่องในสองคนมองหน้ากันคือกินเครื่องในกันไม่เป็นจานสุดท้ายสั่งกุ้งคั่วเกลือพริกไทคิดว่าชัวร์แน่ปรากฎว่าออกมาเป็นกั้งทั้งตัวครูดัชไม่แตะเลยอิฉันเลยต้องฟาดคนเดียวเค็มมากความเค็มยังติดปากจนถึงทุกวันนี้เที่ยวกวางเจาโดยไม่ได้เตรียมการอะไรมันก็สนุกไปอย่างโดยเฉพาะได้ไปกับเพื่อนที่คอเดียวกันพจญภัยกันสองคนต่างคนต่างง่ายๆสบายๆทำให้ทริปนี้สนุกถึงแม้จะหลงบ้างกินผิดกินถูกบ้างแต่เราสองคนกลับมาพร้องกันเรื่องหน้าแตกมาเล่าให้ฟัง

ฉบับหน้าจะมาเล่าต่อเรื่องงานYoga Festivalให้ฟังคือทุกอย่างที่กวางเจ้าถือว่าเป็นการพจญภัยคือทุกอย่างคาดการไม่ได้เลยคอยติดตามกันต่อไปนะครับ

latest articles

เข้าสู่ระบบ Asiawellness.com